1.Round Liner ก็คือเข็มกลุ่มที่รวบปลายเข็ม เอาไว้สำหรับเดินเส้น หรือถ้าเป็นเบอร์ใหญ่ๆหน่อย ก็สามารถนำไปถมดำได้ แต่ส่วนใหญ่เค้าจะใช้ทำงานตามมุมต่างๆที่เข็มขนาดใหญ่เข้าไม่ถึง
2.Round Shader คือเข็มกลุ่มที่ไม่รวบปลาย ให้สังเกตุที่ตะกั่วเชื่อมแถวปลายเข็มนะครับ จะเชื่อมแบบไม่ถึงปลายตั้งแต่ 1 ซม.- 1.5 ซม. การใช้งานก็คือ เอาไว้ถมดำ,ลงสี,ลงเงา บางทีผมก็ใช้เข็มตัวนี้เดินเส้นเหมือนกัน บางโอกาศที่ต้องใช้ เช่นงานแจแปนนิสสไตล์
3.Magnum(M1) ก็คือเข็มแบนที่ตรงปลายสลับแบบฟันปลา คุณสมบัติก็คือ ใช้ทำงานได้ทุกประเภทครับ บางท่านก็ใช้เดินเส้นด้วย (ในงานใหญ่ๆเท่านั้น)...เข็มแม็กนั่มก็เหมือนกับเราใช่ภู่กันแบนขนาดใหญ่แหล่ะครับ เพื่อให้ได้ภาพที่เนียน และการทำงานที่ไว...ขนาดก็จะมีตั้งแต่ 3เข็มขึ้นไป จนถึง60 กว่าเล่ม แต่เข็มชนิดนี้จะเป็นเลขคี่เท่านั้นนะครับ
4.Magnum (M2) ก็คือเข็มที่เชื่อมแบบวางซ้อนกันสองชั้น เป็นจำนวนเลขคี่เหมือนกัน มากอยู่ล่าง น้อยอยู่บน เข็มชนิดนี้ใช้งานดีมากๆ ในการลงสี กับถมดำ จะลดความเจ็บลงได้เยอะ และอีกอย่าง ในการลงเข็มแต่ละครั้ง เราจะได้พื้นที่ๆติดมาก เพราะช่องว่างของเข็มมีน้อย...แต่ช่างไม่ค่อยนิยมใช้กัน เพราะการเชื่อมนั้นยุ่งยากมาก แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเข็มสำเร็จรูปขายกันแล้ว เพิ่มความสบดวก+สบายให้กับช่างมากครับ
5.Round Magnum คือเข็มMagnum (M1)แต่ตรงปลายจะมีแนวโค้งเล็กน้อย จะไม่ตัดตรงเหมือน M1 คุณสมบัติของเข็มตัวนี้คือ เวลาที่เราเข้าตามซอก หรือมุม มันจะลดการบาดของเข็มที่เข้าเนื้อได้เยอะ เหมาะกับงานทำเงามากๆ ถ้าเอาไปลงสีก็ดีครับ เข็มชนิดนี้ทางช่างสักเราได้ดัดแปลงมาจากเข็มสักมือของชาวญี่ปุ่น ใช้ใหม่ๆอาจจะไม่ถนัดนิดหน่อย เพราะเราจะไม่ค่อยคุ้นกับการคำนวนในการติดของมัน แต่ถ้าใช้ไปเรื่อยๆก็จะชอบมันเองแหล่ะครับ
6.Flat ก็คือเข็มแบน ที่ไม่ได้มีการสลับฟันปลาตรงปลายเข็ม ขนาดไม่จำกัดครับ มีทั้งเลขคี่และเลขคู่ เข็มตัวนี้เอาไว้ลงเงาครับ ตรงปลายจะเชื่อมแบบปล่อยๆ ตั้งแต่ 1 ซม.-1.5 ซม. เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้วล่ะครับ เพราะว่ามันจะบาดเนื้อมาก ถ้าใช้อย่างไม่ถูกวิธี แต่ก็ยังมีช่างเซียนๆบางท่านที่ยังใช้อยู่นะ.. เพราะเข้าใจการทำงาน แต่ผมว่าใช้แบบ M1 ดีกว่า หรือแบบ Round Magnum ก็ได้
2.Round Shader คือเข็มกลุ่มที่ไม่รวบปลาย ให้สังเกตุที่ตะกั่วเชื่อมแถวปลายเข็มนะครับ จะเชื่อมแบบไม่ถึงปลายตั้งแต่ 1 ซม.- 1.5 ซม. การใช้งานก็คือ เอาไว้ถมดำ,ลงสี,ลงเงา บางทีผมก็ใช้เข็มตัวนี้เดินเส้นเหมือนกัน บางโอกาศที่ต้องใช้ เช่นงานแจแปนนิสสไตล์
3.Magnum(M1) ก็คือเข็มแบนที่ตรงปลายสลับแบบฟันปลา คุณสมบัติก็คือ ใช้ทำงานได้ทุกประเภทครับ บางท่านก็ใช้เดินเส้นด้วย (ในงานใหญ่ๆเท่านั้น)...เข็มแม็กนั่มก็เหมือนกับเราใช่ภู่กันแบนขนาดใหญ่แหล่ะครับ เพื่อให้ได้ภาพที่เนียน และการทำงานที่ไว...ขนาดก็จะมีตั้งแต่ 3เข็มขึ้นไป จนถึง60 กว่าเล่ม แต่เข็มชนิดนี้จะเป็นเลขคี่เท่านั้นนะครับ
4.Magnum (M2) ก็คือเข็มที่เชื่อมแบบวางซ้อนกันสองชั้น เป็นจำนวนเลขคี่เหมือนกัน มากอยู่ล่าง น้อยอยู่บน เข็มชนิดนี้ใช้งานดีมากๆ ในการลงสี กับถมดำ จะลดความเจ็บลงได้เยอะ และอีกอย่าง ในการลงเข็มแต่ละครั้ง เราจะได้พื้นที่ๆติดมาก เพราะช่องว่างของเข็มมีน้อย...แต่ช่างไม่ค่อยนิยมใช้กัน เพราะการเชื่อมนั้นยุ่งยากมาก แต่เดี๋ยวนี้ก็มีเข็มสำเร็จรูปขายกันแล้ว เพิ่มความสบดวก+สบายให้กับช่างมากครับ
5.Round Magnum คือเข็มMagnum (M1)แต่ตรงปลายจะมีแนวโค้งเล็กน้อย จะไม่ตัดตรงเหมือน M1 คุณสมบัติของเข็มตัวนี้คือ เวลาที่เราเข้าตามซอก หรือมุม มันจะลดการบาดของเข็มที่เข้าเนื้อได้เยอะ เหมาะกับงานทำเงามากๆ ถ้าเอาไปลงสีก็ดีครับ เข็มชนิดนี้ทางช่างสักเราได้ดัดแปลงมาจากเข็มสักมือของชาวญี่ปุ่น ใช้ใหม่ๆอาจจะไม่ถนัดนิดหน่อย เพราะเราจะไม่ค่อยคุ้นกับการคำนวนในการติดของมัน แต่ถ้าใช้ไปเรื่อยๆก็จะชอบมันเองแหล่ะครับ
6.Flat ก็คือเข็มแบน ที่ไม่ได้มีการสลับฟันปลาตรงปลายเข็ม ขนาดไม่จำกัดครับ มีทั้งเลขคี่และเลขคู่ เข็มตัวนี้เอาไว้ลงเงาครับ ตรงปลายจะเชื่อมแบบปล่อยๆ ตั้งแต่ 1 ซม.-1.5 ซม. เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้วล่ะครับ เพราะว่ามันจะบาดเนื้อมาก ถ้าใช้อย่างไม่ถูกวิธี แต่ก็ยังมีช่างเซียนๆบางท่านที่ยังใช้อยู่นะ.. เพราะเข้าใจการทำงาน แต่ผมว่าใช้แบบ M1 ดีกว่า หรือแบบ Round Magnum ก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก>>>http://www.yingyoungterktattoo.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&No=1196248<<<
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น